ดวงดาว อวกาศ

ดวงดาว อวกาศ

หัวข้อนำทาง

ดวงดาว อวกาศ อวกาศ หมายถึง อวกาศนอกชั้นบรรยากาศของโลก หรือบริเวณที่มีความสูงจากพื้นโลกประมาณ 800 กิโลเมตรขึ้นไป ประกอบด้วยดวงดาวมากมาย เนื่องจากอวกาศอยู่ไกลจากโลกของเรามาก จึงไม่สามารถส่งแรงดึงดูดไปยังวัตถุในอวกาศได้ ทำให้วัตถุ อยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก วัตถุจะลอยอยู่ในอวกาศโดยไม่ตกลงสู่พื้นโลก อุณหภูมิในอวกาศสูงและการแผ่รังสีที่แตกต่างจากดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์หลายดวง ดวงดาว หมายถึง

นักดาราศาสตร์กำหนดให้หน่วยการวัดระยะทางในอวกาศเป็นปีแสง แสงเดินทางประมาณ 300,000 กิโลเมตรในหนึ่งวินาที และระยะทางที่แสงเดินทางได้ในหนึ่งปีเรียกว่าปีแสง ดวงอาทิตย์ มวล ดาวเคราะห์ เป็นสารขนาดใหญ่ที่มีอุณหภูมิสูงและการแผ่รังสีโดยรอบ ก๊าซนิวเคลียร์ไฮโดรเจนที่อยู่ใจกลางดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่ดวงอาทิตย์ส่งมายังโลกในรูปของความร้อนและแสงสว่าง ทำให้สิ่งมีชีวิตอยู่รอดได้ ดวงดาวอวกาศ

ต้นเหตุการเกิดของ ดวงดาว อวกาศ

ดวงดาว อวกาศ ไม่นานมานี้ได้ไปสำรวจดวงดาวในกลุ่มดาวคนธนู ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 6 ปีแสงจากการปล่อยกระสวยอวกาศ ทำให้เราได้ข้อมูลสำคัญที่ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ทางดาราศาสตร์ สำหรับการสำรวจครั้งนี้ นักบินอวกาศใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล สาเหตุที่สำรวจกลุ่มดาวเสาร์เพราะเป็นจุดที่เกิดดาวฤกษ์มากที่สุด ก่อนหน้านี้มีการสำรวจกลุ่มดาวราศีพฤษภ แต่กล้องส่องทางไกลที่ใช้ในสมัยนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเหมือนในปัจจุบัน นักดาราศาสตร์จึงมองเห็นภาพเป็นวงแหวนหรือจุดจางๆ อย่างไรก็ตาม Robert O’Dell นักดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยไรซ์ในเท็กซัส สันนิษฐานว่าจุดเหล่านี้อาจเป็นกระจุกของดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวดวงใหม่ นานวันเข้าอาจมีการค้นพบสิ่งมีชีวิตบ้าง เพราะบนโลกเท่านั้นที่จะมีสภาพแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้?

ดวงดาวอวกาศ ในการสังเกตดาวดิปเปอร์นี้ โรเบิร์ต โอเดลล์ยืนยันว่าการมองเห็นนั้นชัดเจนและเป็นความจริง: ที่ใจกลางของกลุ่มดาวดิปเปอร์มีดาว 110 ดวง โดย 56 ดวงเกาะกลุ่มกันเป็นก้อน ฝุ่นกลมหมุนรอบตัวมัน ซึ่งจากการสังเกตครั้งก่อนจะเห็นเป็นเพียงจุดจางๆ กลุ่มดาวที่สว่างที่สุดที่ช่วยให้เรามองเห็นดาวดวงอื่นในกลุ่มแก๊สและฝุ่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นคือกลุ่มดาวสี่เหลี่ยมคางหมู ล้อมรอบด้วยก๊าซและฝุ่นและมีอายุเพียง 300,000 ถึง 1 ล้านปี นี่คือดาวอายุน้อยมากเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ซึ่งมีอายุประมาณ 4.5 พันล้านปี

จากการสังเกตการณ์นี้ นักดาราศาสตร์พยายามศึกษาว่าดาวดวงใหม่ก่อตัวอย่างไร และตั้งสมมุติฐานว่า เมื่อมวลของก๊าซในดาวฤกษ์มีความหนาแน่นสูงกว่าสสารที่อยู่รอบๆ และแรงโน้มถ่วงในตัวเองมีมากกว่ารอบๆ ณ ใจกลางของเมฆก๊าซจะร้อนขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่ง การระเบิดจะสร้างคลื่นที่เรียกว่าคลื่นกระแทก ซึ่งบีบอัดและทำให้เมฆก๊าซหนาขึ้น ในระยะแรกมักมีฝุ่นล้อมรอบ แต่ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปฝุ่นก็จะถูกพัดหายไป จึงทำให้สามารถมองเห็นดาวดวงใหม่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มวล ดาวเคราะห์

“วัตถุอวกาศคืออะไร” มาทำความรู้จักกับวัตถุนอกโลกที่เราอาจจะยังไม่รู้จักกัน

“วัตถุอวกาศ” คือวัตถุในวงโคจรของโลก ดวงดาว หมายถึง วงโคจรของดวงอาทิตย์และอวกาศมีประโยชน์ต่อการศึกษาอวกาศและผืนดิน เช่น ดาวเทียม จรวด ยานอวกาศ สถานีอวกาศ อุปกรณ์ยังชีพนักบินอวกาศ รวมถึงระบบดวงดาวต่างๆ กาแล็กซี่ และอุกกาบาต เป็นต้น ด้วยโลกของเรามีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอวกาศอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ปัจจุบันมีดาวเทียมประมาณ 5,000 ดวงที่โคจรรอบโลกและยานอวกาศอีกมากมาย วัตถุอวกาศมีสองประเภท:

1. วัตถุอวกาศที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ของวัตถุอวกาศ

  • ดาวฤกษ์ คือ ดวงดาวอวกาศ ดวงดาวที่ส่องสว่างและสามารถมองเห็นได้ในเวลากลางคืน ดาวเหล่านี้เป็นเมฆก๊าซ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไฮโดรเจนและฮีเลียมที่หดตัวและมีมวลสะสมอยู่พอสมควร จึงเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันขึ้น สร้างโฟตอนและความร้อนและกลายเป็นดาวในที่สุด ดาวที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ใกล้โลกมากที่สุดคือดวงอาทิตย์
  • ดาวเคราะห์ เป็นเทห์ฟากฟ้าที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง มวล ดาวเคราะห์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ เป็นวัตถุที่มีลักษณะใกล้เคียงทรงกลม ไม่ใช่ดาวเทียมหรือดวงจันทร์ และไม่มีวัตถุอื่นโคจรอยู่ในบริเวณเดียวกัน
  • ยักษ์แดง (Red giant) ดาวฤกษ์ที่เผาไหม้เป็นเวลาหลายพันล้านปี ทำให้ก๊าซหมด จึงเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดงและใหญ่กว่าเดิม เราเรียกมันว่าดาวยักษ์แดง อากาศ ดาวเทียม
  • ดาวเคราะห์น้อย มีดาวฤกษ์ขนาดเล็กจำนวนมากโคจรรอบดวงอาทิตย์ ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี นักวิทยาศาสตร์เรียกพวกมันว่าดาวเคราะห์น้อย และเชื่อกันว่าดาวเคราะห์น้อยอาจพุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งทำให้เกิดการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์
  • ดาวเคราะห์แคระ มีลักษณะหลายอย่างร่วมกับดาวเคราะห์ สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (IAU) ได้กำหนดลักษณะของดาวเคราะห์แคระไว้ว่า ดาวฤกษ์ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์จะต้องมีมวลมากพอที่จะรักษารูปทรงกลมได้ ไม่มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้วงโคจร และไม่มีดวงจันทร์ ตัวอย่างของดาวเคราะห์แคระ ได้แก่ เซเรส พลูโต และอีริส
  • โพรโทพลาเนต (Protoplanets) เป็นดาวเคราะห์ดวงแรกที่ใหญ่กว่าดาวเคราะห์น้อยแต่เล็กกว่าดาวเคราะห์แคระ
  • ดาวหาง เป็นวัตถุท้องฟ้าในอวกาศ ที่ใจกลางของมันคือก้อนหิมะขนาดใหญ่ที่สกปรกและเต็มไปด้วยฝุ่นและก๊าซ หากเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ น้ำแข็งที่อยู่ตรงกลางจะค่อยๆ ละลายและปล่อยก๊าซหรือฝุ่นออกมาเป็นรูปหาง ดาวหางที่มีชื่อเสียงที่สุดคือดาวหางฮัลเลย์ ซึ่งมองเห็นได้จากโลกทุก ๆ 75-76 ปี และครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นคือในปี 2061
  • สะเก็ดดาว (Meteoroids) เป็นก้อนหินขนาดเล็กที่มีอยู่ในอวกาศรอบดวงอาทิตย์ อุกกาบาตส่วนใหญ่เกิดจากดาวหางที่สูญเสียก๊าซและฝุ่นเมื่อโคจรรอบดวงอาทิตย์ อุกกาบาตอื่นอาจเป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กมาก เส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 1 กิโลเมตร
  • ดาวตก หรือ ผีใต้ (Meteor) ดาวตก หรือ ผีใต้ เกิดจากดาวตกในอวกาศ ที่พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกและสร้างความร้อนจากแรงเสียดทานระหว่างพื้นผิวอุกกาบาตกับอากาศ ปรากฏเป็นแสงสวยงามบนท้องฟ้าให้เห็น มักจะมอดไหม้ ก่อนตกลงสู่พื้นโลก
  • อุกกาบาต คืออุกกาบาตที่พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก แต่เมื่อได้รับความร้อนจากแรงเสียดทานระหว่างพื้นผิวอุกกาบาตกับอากาศ อุกกาบาตไม่สามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ มันจึงทิ้งเศษขยะที่ตกลงบนผิวโลก เราเรียกชิ้นส่วนดังกล่าวที่ตกลงมาบนพื้นผิวโลกว่า “อุกกาบาต”
  • เนบิวลาหรือเมฆแก๊ส (เนบิวลา) เนบิวลาคือกลุ่มเมฆฝุ่นและก๊าซขนาดใหญ่ เช่น ไฮโดรเจนและฮีเลียมในอวกาศอันเป็นแหล่งกำเนิดของดาวฤกษ์ เนื่องจากดาวฤกษ์เป็นลูกบอลขนาดใหญ่ที่เกิดจากการเผาไหม้ของก๊าซที่จับตัวเป็นก้อนเหล่านี้ เมื่อลูกบอลใหญ่ขึ้น เนบิวลาจะเริ่มเรืองแสงและกลายเป็นดาวที่สมบูรณ์แบบ อากาศ ดาวเทียม
  • หลุมดำ หลุมดำเป็นวัตถุขนาดใหญ่ในห้วงอวกาศ มีการสันนิษฐานว่าหลุมดำอาจก่อตัวขึ้นหลังจากดาวฤกษ์ระเบิด ดูเหมือนลูกบอลก๊าซและมีแรงดึงดูดมหาศาล มันจะดึงดูดทุกสิ่งและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่แม้แต่แสง ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับหลุมดำ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ มนุษย์สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลุมดำได้จากการตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วง เกิดจากการชนกันของหลุมดำขนาดใหญ่ 2 หลุมโดย LIGO

2. วัตถุอวกาศที่มนุษย์สร้างขึ้นและตั้งใจส่งไปยังวงโคจรของโลกและอวกาศเพื่อทำการสำรวจ

  • กล้องโทรทรรศน์อวกาศ (Space Telescopes) มนุษย์ส่งกล้องโทรทรรศน์อวกาศเข้าไปในชั้นบรรยากาศของโลก ในปี 1990 กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลเปิดตัว เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการศึกษาดาราศาสตร์ เพราะสามารถช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ในอวกาศได้ในระยะไกล โดยไม่รบกวนชั้นบรรยากาศ ทำให้นักดาราศาสตร์ค้นพบปรากฏการณ์สำคัญมากมายจากกล้องนี้ กล้องโทรทรรศน์อื่นๆ ได้แก่ Compton Gamma Ray Observatory, Galaxy Evolution Explorer และ Spitzer Space Telescope ดวงดาว อวกาศ
  • ยานสำรวจอวกาศ (Space probes) Luna 1 เป็นยานสำรวจอวกาศลำแรกที่ผ่านดวงจันทร์ โดยไม่มีมนุษย์ส่งมา (ถ้าเป็นยานสำรวจอวกาศที่มีมนุษย์ประจำการเดินทางไปยังดาวดวงใดดวงหนึ่งจะเรียกว่ายานอวกาศ) เป็นยานอวกาศจากสหภาพโซเวียต แต่หลังจากนั้นก็มียานสำรวจอวกาศจากหลายประเทศ ส่งไปสำรวจดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ ตลอดจนอวกาศอันไกลโพ้น เช่น เวเนรา 4 (Venera 4) ซึ่งเป็นยานอวกาศที่ส่งไปดาวศุกร์ หรือยานอวกาศแคสสินี (Cassini) ซึ่งถูกส่งไปสำรวจดาวเสาร์เป็นครั้งแรก ดวงดาว หมายถึง
  • กระสวยอวกาศ (Space shuttle) กระสวยอวกาศเป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ซ้ำ เปลี่ยนจรวดที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยกระสวยอวกาศโคลัมเบีย เป็นกระสวยอวกาศลำแรกที่บินขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2524 กระสวยอวกาศเปรียบเสมือนยานพาหนะสำหรับเคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆ เช่น นำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรรอบนอก หรือขนชิ้นส่วนขนาดใหญ่ไปสร้างสถานีอวกาศนานาชาติ
  • ดาวเทียม (Artificial Satellites) อากาศ ดาวเทียม เป็นอุปกรณ์ที่ถูกส่งออกจากโลกโดยกระสวยอวกาศ มันจะโคจรรอบโลกและใช้ในการสื่อสาร มันส่งสัญญาณโทรศัพท์เช่นเดียวกับสัญญาณโทรทัศน์ นอกจากนี้เรายังใช้ดาวเทียมเพื่อช่วยในการสังเกตสภาพอากาศ หรือสำรวจดาวเคราะห์ต่างๆ ได้อีกด้วย. ดาวเทียมไทยดวงแรกที่ส่งไปได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า “ดาวเทียมไทยคม” (THAICOM) จากการสื่อสารของไทย ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2536 เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารทั้งสัญญาณโทรทัศน์ วิทยุ และโทรศัพท์ และดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทย “ไทยโชต” (THAICHOTE) ซึ่งหมายถึงดาวเทียมที่ทำให้ประเทศไทยรุ่งขึ้นสู่วงโคจรเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551 และยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ดวงดาว อวกาศ

บทความแนะนำ